หากพูดถึงของการเก็บเรื่องราวและภาพความทรงจำต่าง ๆ นั้น สมัยก่อนเรานั้นคงนึกถึงการจดเรื่องราวสิ่งต่าง ๆ ที่ได้เจอลงเป็นตัวหนังสือลงในสมุดบันทึกของเรา ก่อนที่โลกเริ่มมีการพัฒนาและเริ่มเปลี่ยนการการจดบันทึกเรื่องราวเพียงอย่างเดียวเพิ่มเติมเข้าไปด้วยภาพถ่าย ที่ทำให้เรานั้นสามารถมองและย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่พิเศษต่าง ๆ ของเราได้
อุตสาหกรรมกล้อง
อุตสหกรรมกล้องดิจิทัลนั้นเกินขึ้นมาอย่างยาวนาน และยังต้องเจอกับปัญหามากมายในด้านต่าง ๆ ในช่วงหลายต่อหลายปีที่ผ่านมานั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโรคระบาด ที่ส่งผลกระทบมากมายต่อหลายธุรกิจ รวมไปถึงอุตสาหกรรมกล้องด้วยเช่นกัน และยังร่วมไปถึงการเติมโตของสมาร์ทโฟนที่พัฒนาอย่างรวดเร็วที่สามารถใช้งานในการสื่อสารและบันทึกผ่านเพื่อแชร์เรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
การเติบโต
โดยข้อมูลต่อไปนี้เป็นข้อมูลจาก Statista ที่เป็นการรวบรวมข้อมูลของการจัดส่งกล้องต่าง ๆ โดยเป็นการรวมรวบตั้งแต่ปี 1951 จวบจนถึงปี 2023 จากทาง Camera and Imaging Products Association (CIPA) ที่เป็นการเก็บข้อมูลของค่ายกล้องอย่าง Canon, FUJIFILM, Sony, Nikon, และอีกหลายเจ้าเอาไว้
หากเรามาลงวิเคราะห์ จากข้อมูลทีละช่วง ในยุคของกล้องฟิล์มนั้นมีการเติบโตตั้งแต่ปี 1951 ยาวไปจนถึงช่วงปี 1970 โดยด้านของการเติบโตนั้นเป็นไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งมาในยุคหลังปี 1980 จนไปถึงปี 2000 นั้นถือเป็นยุคที่กล้องฟิล์มนั้นมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัด
กล้องฟิล์มสู่กล้องดิจิทัล
การเปลี่ยนผ่านเข้ามาระหว่างกล้องฟิล์ม และกล้องดิจิทัลนั้น เกิดขึ้นระหว่างปี 2000 ถึงช่วงปี 2010 เรียกได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองและยุคแห่งการพัฒนา ตลาดกล้องอย่างมาก โดยมีการนำส่งกล้องกว่า 120 ล้านตัวต่อปี ก่อนที่ตัวเลขนั้นจะค่อย ๆ ลดลงจากปี 2010 จนถึงปี 2023 หากดูจากกราฟแล้ว ยอดนั้นลดลงกว่า 94%
การเข้ามาของสมาร์ทโฟน ส่งผล?
จากการเข้ามาถึงของสมาร์ทโฟนที่เข้ามาอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่ครบคลุมทั้งการสื่อสารต่าง ๆ ระบบการแชทมากมาย ร่วมไปถึงการถ่ายภาพผ่านสมาร์ทโฟนที่ช่างง่ายดายและยังได้คุณภาพดียิ่งขึ้นในทุก ๆ ปี และยังไม่รวมถึงขนาดของเซนเซอรืที่ใหญ่เทียบเท่ากับกล้อง Compact Hi-end หลาย ๆ รุ่น และในปี 2024 ก็ยังนำ AI เข้ามาช่วยในด้านของคุณภาพอีกด้วยนั้นจึงทำให้สมาร์ทโฟนเป็นที่นิยมอย่างมากและยังส่งผลกระทบต่อตลาดของกล้องไม่น้อยเลย แต่หากเรามองถึงกลุ่มช่างภาพต่าง ๆ ที่ต้องการทำงานด้านงานภาพหรือแม้กระทั่งงานวีดีโอ ช่างภาพส่วนใหญ่มองถึงกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ ที่จะทำงานและให้ภาพที่ดีกว่าสมาร์ทโฟน และในการถ่ายงานต่าง ๆ นั้นแตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระยะเลนส์ร่วมไปถึง ความคมชัด สปีดชัดเตอร์ต่าง ๆ ที่ออกแบบเฉพาะช่างภาพมืออาชีพส่วนใหญนั้นจึงใช้กล้องดิจิทัล หรือกล้องโปรต่าง ๆ มากกว่าการใช้กล้องจากสมาร์ทโฟน
ยุครุ่งเรืองของตลาดกล้องดิจิทัล
หากเรานั้นมองย้อนกลับไปในยุครุ่งเรืองของตลาดกล้องดิจิทัลนั้น แม้ว่าแบรนด์กล้องใหญ่ ๆ จะได้รับการตอบรับและได้รับควานิยมชมชอบจากกล้องรุ่นเรือธงต่าง ๆ นั้น แต่จริง ๆ แล้วกล้องที่ขับเคลื่อนตลาดในยุคนั้นกลับเป็นกล้อง Compact ต่าง ๆ เมื่อลองมองย้อนกลับไปดี ๆ อีกสักครั้ง ในสมัยนั้นเรียกได้ว่า กล้อง Compact ต่าง ๆ มีกันแทบทุกบ้าน ด้วยการออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก พกพาง่าย และในหลาย ๆ ตัวก็ยังออกแบบบอดี้ออกมาได้สวย และทันสมัยน่าใช้มาก ๆ จึงทำให้กล้อง Compact นั้นเป็นที่นิยมกันอย่างมาก
แต่ในช่วงปี 2023 นั้น กล้อง Compact ต่างกลับมียอดขายและยอดส่งทั้งหมดรวมกันเพียง 1.7 ล้านตัวเท่านั้น แต่มองข้อมูลในช่วงเดือน พฤษภาคม ที่ผ่านมานั้น สนง.ประเทศญีปุ่นได้ทำการสำรวจและพบว่า ประชากรครัวเรือนของญีปุ่นนั้น มีอยู่ประมาณ 48.6% เพียงเท่านั้น ที่เป็นเจ้าของกล้องถ่ายรูป บอกกับข้อมูลจากเว็บ Statista นั้นยังทำให้เราเห็นว่าประชากรญีุปุ่นนั้นมีเพียง 30% เท่านั้น ที่เป็นเจ้าของกล้อง ซึ่งเทียบกับเมื่อ 5 ปีก่อนที่หลายประเทศนั้นประชากรเป็นเจ้าของกล้องมากกว่า 50% เป็นส่วนใหญ่
ความเป็นอยู่ของตลาดกล้อง!?
หากเรามองมุมมองต่างนั้น ๆ ต้องบอกเลยว่าตลาดกล้องนั้นไม่อาจจะล่มสลายได้เลย เพราะในปัจจุบันนั้นในด้านงานสื่อและงานภาพต่าง ๆ นั้นต่างแข็งขันกันทีคุณภาพของไฟล์ภาพ หรือแม้แต่ไฟล์วีดีโอ ช่างภาพมืออาชีพส่วนใหญ่นั้นจึงนิยมใช้กล้องมากกว่าสมาร์ทโฟน นั้นเอง
ติดตามรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่ Facebook : FOTOFILE หรือเลือกช้อปสินค้าได้ที่ FOTOFILE
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Statista