หากคุณเป็นรักในการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ และอยากจะพัฒนาความสามารถในการถ่ายรูปขึ้นมาอีกระดับ โดยมองหากล้องถ่ายรูปดี ๆ สักตัว ที่ไม่ใช่แค่กล้องถ่ายรูปในโทรศัพท์มือถืออีกต่อไป นี่จะเป็นรีวิวที่ช่วยให้คุณได้ความรู้เกี่ยวกับกล้องและเคล็ดลับในการเลือกซื้อกล้องตัวแรกที่เหมาะสมกับคุณ
การเลือกซื้อกล้องตัวแรกสำหรับมือใหม่นั้น ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงหรือเป็นกล้องตัวโปรเสมอไป คุณควรจะลงทุนกับกล้องที่ราคาไม่สูงมากนัก จากนั้นค่อยขยับขยายซื้อเลนส์และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ไปเรื่อย ๆ เมื่อคุณมีประสบการณ์ในการถ่ายภาพที่มากพอ เรามีคำแนะนำดี ๆ สำหรับผู้ที่เป็นตากล้องมือใหม่ให้คุณได้เรียนรู้ เพื่อที่ได้พัฒนาต่อยอดความสามารถให้มากยิ่งขึ้น
กล้อง Mirrorless ต่างจากกล้อง DSLR อย่างไร
กล้อง Mirrorless : เป็นกล้องมีการทำงานที่ไม่ซับซ้อน เน้นความสะดวกในการพกพาเมื่อเทียบกับกล้อง DSLR ที่มีน้ำหนักหนักกว่า ส่วนฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ของกล้อง Mirrorless ก็ใช้งานได้ง่ายกว่ากล้อง DSLR แต่ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพออกมาคุณภาพไม่ได้แพ้กล้อง DSLR เลย เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้งานกล้อง
สำหรับกล้อง DSLR : จะให้อารมณ์ในการถ่ายภาพดีมากกว่า ตัวกล้องมีขนาดใหญ่และด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างหนัก จึงให้ความบาลานซ์ได้ดี เมื่อใช้เลนส์เสริม และยังจับถนัดมือ ให้ความรู้สึกมั่นคงในการจับมากกว่า สำหรับช่องมองภาพมีโฟกัสที่ไว มีเลนส์หลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งยังสามารถใช้แบตได้นานกว่า กล้อง DSLR เป็นกล้องที่ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะต้องใช้ประสบการณ์และต้องความสามารถขั้นสูงในการใช้งาน
วิธีเลือกซื้อกล้องสำหรับมือใหม่
- เลือกกล้องที่มีน้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก ขนาดกะทัดรัดพอดี ไม่เล็กไปไม่ใหญ่ไป
- เลือกจอแสดงผลแบบ touchscreen เพราะใช้งานได้ง่ายกว่า
- เลือกกล้องที่มีช่องมองภาพ (Viewfinder) เพราะจะสะดวกในการมองภาพ ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนแม้มีแสงจ้า
- สำหรับมือใหม่เลือกกล้องที่มี Auto Mode ที่สามารถตั้งค่าให้เราได้อัตโนมัติจะดีมาก ๆ เลย เพราะเราจะได้เรียนรู้เทคนิคการถ่ายภาพจากตรงนี้
- สำหรับเซนเซอร์ APS-C นั้นจะเหมาะกับการถ่ายภาพแบบซูม
- สำหรับเซนเซอร์ Micro 4/3 จะเหมาะสำหรับถ่ายวิวทิวทัศน์ ทที่เน้นมุมมองเป็นแนวกว้าง ๆ
- ควรเลือกกล้องทีมี Wi-Fi หรือ Bluetooth ในการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
- เลือกกล้องที่มีเลนส์เสริม ที่สามารถหาซื้อได้ง่าย
สำหรับใครที่กำลังมองหา SD Card สำหรับใช้กับกล้องถ่ายรูปและวิธีฟอร์แมต SD card เพื่อเก็บรูปภาพจำนวนมาก ๆ เราได้เคยแนะนำ SD Card ไว้แล้วให้คุณได้เลือกพิจารณา SD Card ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ หรือหากคุณกำลังมองหากล้องถ่ายสำหรับการใช้งานประเภทอื่นอาทิเช่น กล้องแอคชั่น หรือ กล้อง GoPro สำหรับบันทึกประสบการณ์การผจญภัยของคุณและอุปกรณ์เสริมกล้อง GoPro ใช้อย่างให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด หรือจะเป็นกล้องอินสแตนท์ที่ถ่ายปุ๊บได้รูปปั๊บซึ่งเหมาะสำหรับสาว ๆ มาก ๆ เลยค่ะ กล้องคอมแพคก็เหมาะสำหรับเน้นใช้งานสะดวกและง่ายในการใช้งาน ไม่ว่าจะกล้องแบบไหนต่างก็ล้วนขึ้นอยู่กับความถนัดและวัตถุประสงค์ในการใช้งานของคุณทั้งนั้น ดังนั้นโปรดตรวจสอบตัวเองให้แน่ใจใจก่อนเป็นอันดับแรกว่าต้องการใช้งานไปในประเภทไหนนะคะ ?
เอาล่ะค่ะก่อนที่ไปดูบทสรุปว่าใครเหมาะสำหรับกล้องแบบไหน เราอยากให้คุณได้ลองอ่านรีวิวที่เรารวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้งานจริง ๆ แล้วสรุปออกมาแบบสั้น ๆ ให้คุณได้อ่านกันแบบเข้าใจง่าย ๆ เพื่อที่คุณจะได้รู้ใจตัวเองกันก่อนว่าคุณเหมาะกับแบบไหน จากนั้นค่อยไปดูบทสรุปของเราว่าตรงกันกับใจคุณรึป่าว ?
รีวิว Canon EOS 2000D kit 18-55 mm.
รูปภาพจาก Canon
ราคา 11,090 บาท*หากคุณมีงบประมาณที่ไม่สูงมากนัก แต่คุณต้องการใช้กล้อง DSLR เราขอแนะนำกล้อง Canon EOS 2000D ที่คงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ด้วยราคาเพียงหมื่นต้น ๆ คุณก็สามารถเป็นเจ้าของกล้อง DSLR ได้แล้ว นอกจากนี้คุณยังจะได้รับเซ็นเซอร์ APS-C 24.2 ล้านพิกเซล และโหมดถ่ายภาพทั้งหมด ที่เหมาะสำหรับคนเริ่มต้นใช้กล้องต้องเรียนรู้ คุณยังสามารถเพิ่มเลนส์เสริมและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้หากคุณต้องการจะยกระดับกล้องของคุณให้โปรกว่าเดิม แต่เนื่องจากราคาที่ไม่สูงมากนัก จึงอาจจะมีข้อเสียบางอย่าง อาทิเช่น หน้าจอที่ไม่ไวต่อการสัมผัส และสำหรับคนที่เน้นการถ่ายวิดีโอกล้องตัวนี้อาจจะไม่ใช่ทางของคุณสักเท่าไหร่ เพราะไม่มีวิดีโอ 4K
เหตุผลในการซื้อ
- เป็นกล้อง DSLR ในราคาประหยัด
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ดีในระดับหนึ่ง
- มีการเชื่อมต่อ Wi-Fi
ข้อควรพิจารณา
- หน้าจอไม่ไวต่อการสัมผัส
- ไม่มีวิดีโอ 4K
เซนเซอร์ | 24.1 MP APS-C |
---|---|
เลนส์เมาท์ | Canon EF/EF-S |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi & NFC |
วิดีโอ | 1080p |
อายุแบตเตอรี่ | 500 ภาพ |
หน้าจอทัชสกรีน | |
น้ำหนัก | 475g |
การรับประกัน | 1 ปี |
รีวิว Nikon D3500 18-55mm KIT / DSLR Camera
รูปภาพจาก NIKON
ราคา 13,900 บาท*กล้อง Nikon D3500 เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่เราอยากแนะนำสำหรับผู้ที่เริ่มเล่นกล้อง เพราะกล้องตัวนี้มี Guide Mode หรือคุณสามารถใช้ Auto Mode สำหรับการเริ่มถ่ายแบบ Snapping ก็ยังได้ (Snapping คือการถ่ายแบบไม่คำนึงเรื่อง Composition) สำหรับในอนาคตคุณก็สามารถเลือกซื้อเลนส์เสริมที่มีให้เลือกได้อย่างมากมาย รวมถึงอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่นรีโมทคอนโทรล ในเรื่องของอายุการใช้งานนั้นค่อนข้างกินแบตเตอรี่น้อยมาก คุณสามารถถ่ายรูปได้ 1,650 ช็อตโดยที่แบตไม่หมด เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางและวันหยุดพักผ่อน ทั้งยังมี Bluetooth สำหรับถ่ายโอนภาพไปยังสมาร์ทโฟนของคุณได้อีกด้วย
เหตุผลในการซื้อ
- เป็นกล้อง DSLR ที่ใช้งานง่าย
- มี Guide Mode
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
- ราคาไม่แพง
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มี Wi-Fi
- ไม่ใช่หน้าจอทัชสกรีน
- ไม่มีวิดีโอ 4K
เซนเซอร์ | 24.2MP APS-C |
---|---|
เลนส์เมาท์ | Nikon F |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth |
วิดีโอ | 1080p |
อายุแบตเตอรี่ | 1,650 ภาพ |
หน้าจอทัชสกรีน | |
น้ำหนัก | 415g |
การรับประกัน | 1 ปี |
รีวิวกล้อง Olympus Camera E-PL9 เลนส์ 14-42 mm
รูปภาพจาก Olympus
ราคา 15,190 บาท*กล้อง E-PL9 เป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานรวมกับสมาร์ทโฟน ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีช่องมองภาพ (viewfinder) แต่ถ้าหากคุณใช้ร่วมกับโทรศัพท์ของคุณก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรนัก และถึงแม้เซ็นเซอร์จะมีขนาดเล็ก แต่หากคุณไม่ได้ใช้ถ่ายภาพอย่างต่อเนื่องในที่ที่มีแสงน้อย ก็ไม่ใช่ข้อเสียของกล้องตัวนี้อีกเช่นกัน และแน่นอนว่ามันสามารถอัดวีดีโอแบบ 4K ได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นกล้องที่เหมาะสำหรับ Vloggers หรือนักเขียนบล็อก อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มเล่นกล้องอีกด้วย
เหตุผลในการซื้อ
- ราคาดี
- เหมาะสำหรับ Vloggers หรือนักเขียนบล็อก
- ใช้งานง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีช่องมองภาพ (viewfinder)
- เซ็นเซอร์ขนาดเล็กกว่าตัวอื่น ๆ เทียบกับสินค้าที่เรารีวิวในบทความนี้
เซนเซอร์ | 16.1MP Four Thirds Live MOS |
---|---|
เลนส์เมาท์ | Micro Four Thirds |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi & Bluetooth |
วีดีโอ | 4K |
อายุแบตเตอรี่ | 350 ภาพ |
หน้าจอทัชสกรีน | |
น้ำหนัก | 380g |
การรับประกัน | 1 ปี |
รีวิวกล้อง Canon EOS M200 EF-M 15-45 mm. F3.5-6.3 IS STM
รูปภาพจาก Canon
ราคา 15,585 บาท*ในขณะที่ชื่อ “Canon” ที่อยู่ด้านหน้าทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณได้รับสิ่งที่ดี แต่ในความจริงแล้วกล้อง EOS M200 ไม่ใช่กล้องมิเรอร์เลสที่น่าตื่นเต้นที่สุด โครงสร้างของมันไม่สะดวกสบายหรือถูกหลักสรีรศาสตร์เหมือนรุ่นอื่น ๆ และภาพของมันไม่มีสีที่หลากหลายเหมือนดั่งกล้อง Fujifilm ย่างไรก็ตามสิ่งที่ดีที่สุดนั่นก็คือราคา กล้องตัวนี้เป็นมิเรอร์เลสที่ไม่แพงมากและยังมีคุณภาพที่ดี มาในขนาดเล็กทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย มันจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเดินทาง รวมถึงวิดีโอ 4K (แม้ว่าจะครอบตัด 1.6x) ข้อเสียอย่างหนึ่งคือไม่มีช่องเสียบไมโครโฟนเพื่อปรับปรุงคุณภาพเสียง มันเป็นตัวเลือกงบประมาณที่น้อยแต่ต้องการใช้แบรนด์ที่มีคุณภาพ แต่ไม่มีอะไรพิเศษ มีเซ็นเซอร์แบบเปิดใช้งานการตรวจจับระยะโฟกัสอัตโนมัติ รวมถึงเครื่องมือประมวลผล Digic 8 ล่าสุดของแคนนอน สามารถในการบันทึก วิดีโอ 4K ออกแบบให้ใช้งานง่าย
จุดเด่น
- คุ้มค่าคุ้มราคา เพราะเป็นกล้องมิเรอร์เลสที่เล็กและราคาไม่แพงที่สุดของแบรนด์
- คุณสมบัติที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น
- ถ่ายวิดีโอ 4K
- หน้าจอสัมผัสชนิดปรับเอียงได้
ข้อควรพิจาณา
- คุณภาพของภาพ
- วิดีโอ 4K ถูกครอบตัด
- 4K จำกัด ที่ AF ตรงกันข้าม
- ไม่มีอินพุตไมโครโฟน
เซนเซอร์ | CMOS รูปแบบ APS-C |
---|---|
เลนส์เมาท์ | Canon EF-M |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi, Bluetooth, HDMI, USB |
วิดีโอ | 4K |
แบตเตอรี่ | Rechargeable Li-ion LP-E12 |
หน้าจอทัชสกรีน | |
น้ำหนัก | 299g |
การรับประกัน | 1 ปี |
รีวิวกล้อง Sony a6000 Kit 16-50mm
รูปภาพจาก SONY
ราคา 15,990 บาท*ถึง A6000 จะเป็นรุ่นเก่า แต่ยังคงเป็นรุ่นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เริ่มต้นซื้อกล้อง เพราะมีโหมดการถ่ายภาพที่แตกต่างกัน ซึ่งหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะเรียนรู้และพัฒนาประสบการณ์ได้จาก Sony A6000 อีกทั้งยังมีเลนส์และอุปกรณ์เสริมมากมายให้เลือกเล่น ตัวกล้องมีขนาดกะทัดรัด จึงเหมาะสำหรับการเริ่มต้นการเดินทาง แถมยังมีระบบโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วเป็นพิเศษ หน้าจอเป็น LCD ที่สามารถปรับเอียงได้ ใช้ Wi-Fi และ NFC ในการเชื่อมต่อ
เหตุผลในการซื้อ
- ระบบโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็ว
- AF ไฮบริดได้อย่างรวดเร็ว
- ราคาไม่แพง
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีวิดีโอ 4K
- การตอบสนองของหน้าจอช้า
- ใช้เทคโนโลยีเก่า
เซนเซอร์ | 24.3MP APS-C |
---|---|
เลนส์เมาท์ | Sony E Mount |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi & NFC |
วิดีโอ | 1080p |
อายุแบตเตอรี่ | 360 ภาพ |
หน้าจอทัชสกรีน | |
น้ำหนัก | 285g |
การรับประกัน | 1 ปี |
รีวิวกล้อง Olympus OM-D E-M10 Mark III Kit 14-42 MM
รูปภาพจาก Olympus
ราคา 16,000 บาท*กล้อง Mirrorless ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เป็นกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงและคุณสมบัติมากมาย ออกแบบมาในทรงเก๋ไก๋ย้อนยุค เป็นรุ่นที่มีราคาต่ำที่สุดและเป็นมิตรกับผู้เริ่มต้นมาก มาพร้อมช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ความละเอียดสูง 2.36 ล้าน และหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงที่ปรับเอียงได้ การป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกน สามารถใช้งานได้กับเลนส์ใด ๆ ได้ทำให้คุณได้สนุกที่จะใช้กล้องมากขึ้น การออกแบบที่กะทัดรัดและสิ่งอำนวยความสะดวกและการพกพา การซูมกำลังดีสำหรับการจับภาพเคลื่อนไหว สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหว 4K UHD และถ่ายภาพนิ่งต่อเนื่องได้มากถึง 8.6fps ด้วยราคาขนาดและฟีเจอร์ทำให้กล้องนี้เป็นกล้องที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เริ่มต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นบล็อก, วิดีโอบล็อกและวิดีโอ 4K แม้ว่าใช้เซ็นเซอร์ Micro Four Thirds ที่ขนาดเล็กกว่ากล้อง Mirrorless และ DSLR แต่ยังใหญ่กว่าในกล้องดิจิตอลคอมแพครวมถึงสมาร์ทโฟนทั่วไป มาพร้อมวิดีโอ 4K และหน่วยประมวลผลภาพที่ทรงพลัง
จุดเด่น
- การออกแบบย้อนยุคคลาสสิก แต่การใช้งานล้ำสมัย เหมาะสำหรับคนที่ชอบทรงกล้องแบบย้อนยุค
- สามารถเอียงหน้าจอสัมผัส
- มีวิดีโอ 4K
- ขนาดเล็กเหมาะสำหรับนักเดินทาง
- ช่องมองภาพความละเอียดสูง
- คุณสมบัติทรงพลังในตัวเครื่องขนาดเล็ก
- การป้องกันภาพสั่นไหวในกล้อง 5 แกน
ข้อควรพิจารณา
- พิกเซลค่อนข้างต่ำ
- ยังไม่มีเซ็นเซอร์ 20MP
- ราคาแพงกว่ากล้อง DSLR บางรุ่น
เซนเซอร์ | 16.1MP Micro Four Thirds |
---|---|
เลนส์เมาท์ | Micro Four Thirds |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi |
วิดีโอ | 4K |
อายุแบตเตอรี่ | N/A |
หน้าจอทัชสกรีน | |
น้ำหนัก | 410g |
การรับประกัน | 1 ปี |
รีวิวกล้อง Nikon D5600 Kit + Lens AF-P DX18-55
รูปภาพจาก Nikon
ราคา 17,790 บาท*กล้อง DSLR สำหรับผู้เริ่มต้นที่ยกระดับขั้นขึ้นมาอีก แต่ยังคงนั้นค่อนข้างแพงในการซื้อสำหรับผู้เริ่มต้น แม้จะเป็นเพียงการอัปเกรดเล็กน้อยเป็น D5500 แต่ D5600 ยังคงเป็นกล้อง DSLR ระดับสูงที่มีความสามารถสูง แต่ยังขาดโหมดการถ่ายภาพคู่มือแบบอินเทอร์แอคทีฟของ D3500 แต่ก็ยังใช้งานได้ง่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ, เอฟเฟกต์ และการควบคุมการเปิดรับแสงเอง มีระบบโฟกัสอัตโนมัติ 39 จุดครอบคลุมเฟรมได้ดีกว่า D3500 เหมาะสำหรับการติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหว เพื่อให้ได้การควบคุมที่แม่นยำมากขึ้น มีออโต้โฟกัสแบบ live view มีประสิทธิภาพโดยรวมยอดเยี่ยมและตัวเลือกเลนส์มีมากมาย ระบบปรับโฟกัสอัตโนมัติสมดุลแสงขาวและระบบรับแสงของ D5600 ทำงานได้ดี เซ็นเซอร์ความละเอียดสูง 24.2MP ให้ภาพที่มีรายละเอียดมาก สำหรับ D5600 เป็นตัวเลือกที่ดีถ้าคุณพร้อมที่จะลองเทคนิคขั้นสูงขึ้น เราขอแนะนำให้ใช้เลนส์ kit VR-18-55mm VR ของ Nikon
จุดเด่น
- ระบบ AF ขั้นสูง
- หน้าจอสัมผัสที่ดี
- มีประสิทธิภาพโดยรวมที่ยอดเยี่ยม
- กล้อง D5600 เป็นกล้อง DSLR ระดับกลางที่ดีมาก
- มี Live View ที่ดี
- มีขนาดเล็ก กะทัดรัด เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นความสะดวกในการพกพา
ข้อควรพิจารณา
- หน้าจอ ISOsVari-angle
- วิดีโอ 1080p เท่านั้น ไม่มีการจับภาพวิดีโอ 4K
- ราคาแพงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
- ระบบ SnapBridge น่าประทับใจน้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ
- มันใช้งานได้ดี แต่อาจจะช้าหากใช้งานด้วยสมาร์ทโฟน Android
เซนเซอร์ | APS-C CMOS |
---|---|
เลนส์เมาท์ | Nikon F (DX) |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi, NFC, Bluetooth |
วิดีโอ | 1080p |
อายุแบตเตอรี่ | 820 ภาพ |
หน้าจอทัชสกรีน | |
น้ำหนัก | 465g |
การรับประกัน | 1 ปี |
รีวิวกล้อง Canon EOS 250D Kit 18-55 mm.
รูปภาพจาก Canon
ราคา 17,990 บาท*Nikon และ Canon ถือว่าเป็นแบรนด์คู่แข่งของวงการกล้องถ่ายรูปที่สมน้ำสมเนื้อมาก เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่เราอยากแนะนำสำหรับผู้ที่เริ่มใช้กล้องใหม่ ๆ ที่ค่อนข้างจำกัดงบประมาณ สำหรับ Canon EOS 250D ตัวนี้เป็นกล้องแบบ DSLR เช่นกัน ตัวกล้องมีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่กล้องที่ถูกที่สุดของ Canon และแม้ว่าจะไม่มีโหมดนำทางแบบเต็มรูปแบบให้คุณได้ใช้งาน แต่ก็มีโหมด Guide Interface ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจฟังก์ชั่นและการตั้งค่าต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
เหตุผลในการซื้อ
- เป็นกล้อง DSLR ที่น้ำหนักเบา มีขนาดกะทัดรัด
- หน้าจอทัชสกรีนที่หมุนปรับได้
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
- วิดีโอ 4K
ข้อควรพิจารณา
- ใช้ระบบแบบ Date AF
- วิดีโอ 4K ถูกครอบตัด
- มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อน ๆ (รุ่น mirrorless)
เซนเซอร์ | 24.1MP APS-C CMOS |
---|---|
เลนส์เมาท์ | EF-S |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi & Bluetooth |
วิดีโอ | 4K (ครอบตัด) |
อายุแบตเตอรี่ | 1,070 ภาพ |
หน้าจอทัชสกรีน | |
น้ำหนัก | 449g |
การรับประกัน | 1 ปี |
รีวิวกล้อง Panasonic Lumix GX9 kit lens 12-32mm
รูปภาพจาก Panasonic
ราคา 19,250 บาท*Panasonic เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นถ่ายภาพและเหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบในการเดินทาง เพราะมีการใช้งานง่าย สามารถใช้งานโหมดวิดีโอและภาพถ่ายได้แบบ 4K จึงสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างมีคุณภาพ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นนิยมสำหรับอาชีพ Vloggers หรือนักเขียนบล็อก ทั้งยังมีจอ LCD แบบ Tilting พร้อมระบบทัชสกรีนทำให้คุณใช้งานได้สะดวกสุด ๆ และเนื่องจากเป็นเลนส์แบบ Micro Four Thirds ที่มีความสามารถล้นหลามจึงทำให้คุณไม่ต้องดิ้นรนหาอุปกรณ์เสริมอีกต่อไป
เหตุผลในการซื้อ
- การออกแบบที่มีขนาดกะทัดรัด
- เหมาะสำหรับผู้ชอบเดินทาง
- โหมดวิดีโอและภาพถ่ายแบบ 4K
- ช่วงกว้างของเลนส์เนทีฟ
ข้อควรพิจารณา
- เซ็นเซอร์ขนาดเล็กกว่าตัวอื่น ๆ เทียบกับสินค้าที่เรารีวิวในบทความนี้
- มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่จำกัด
- ช่องมองภาพ (viewfinder) มีขนาดเล็ก
เซนเซอร์ | 21.7MP Four Thirds Live MOS |
---|---|
เลนส์เมาท์ | Micro Four Thirds |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi & Bluetooth |
วีดีโอ | 4K |
อายุแบตเตอรี่ | 260 ภาพ |
หน้าจอทัชสกรีน | |
น้ำหนัก | 450g |
การรับประกัน | 1 ปี |
รีวิว Fujifilm X-A7 Kit 15-45 mm.
รูปภาพจาก Fujifilm
ราคา 19,390 บาท*กล้อง Fujifilm มักมีราคาค่อนข้างสูง แต่ถึงอย่างนั้นก็แลกมาด้วยคุณภาพของภาพที่สูงเช่นกัน สำหรับใครเพิ่งจะเริ่มต้นเล่นกล้อง แต่มีความต้องการอยากได้แบรนด์นี้ เราขอเสนอ Fujifilm X-A7 ดูเหมือนจะเป็นรุ่นที่เหมาะกับคุณ ด้วยเลนส์เมาท์ระบบ X ที่ซึ่งเป็นเลนส์คุณภาพดี ทำให้ได้ภาพที่ยอดเยี่ยม ทั้งยังมีการพัฒนาออโต้โฟกัสและระบบโฟกัสใบหน้าที่ดีกว่ารุ่นก่อน ๆ ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบสไตส์ย้อนยุค
เหตุผลในการซื้อ
- การออกแบบย้อนยุค
- หน้าจอขนาดใหญ่มาก และยังเป็นจอสัมผัส LCD แบบพับได้
- คุณภาพของภาพสูง
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีช่องมองภาพ (viewfinder)
- ราคาสูงสำหรับผู้เริ่มต้น
เซนเซอร์ | 24.2MP APS-C CMOS |
---|---|
เลนส์เมาท์ | X |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi & Bluetooth |
วิดีโอ | 4K |
อายุแบตเตอรี่ | 270 ภาพ |
หน้าจอทัชสกรีน | |
น้ำหนัก | 320g |
การรับประกัน | 1 ปี |
รีวิว Fujifilm X-T200 Kit with 15-45mm
รูปภาพจาก Fujifilm
ราคา 26,400 บาท*Fujifilm X-T200 เป็นกล้องที่ลงตัวระหว่าง X-A7 ระดับเริ่มต้นและ X-T30 ระดับทรงพลังมากขึ้น ดังนั้นจึงถือว่าเป็นกล้อง Mirrorless เหมาะสำหรับระดับเริ่มต้น-ระดับกลาง ยังคงมาในรูปแบบสไตล์ย้อนยุคที่มีความประณีตและมีน้ำหนักเบา แต่มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ขึ้น อัพเกรดทั้งเซ็นเซอร์และตัวประมวลผลให้รองรับคุณสมบัติวิดีโอ 4K (ที่สูงถึง 30fps) ที่ดีขึ้นอย่างมากและออโต้โฟกัสที่ปรับปรุงใหม่ กล้องนี้ยังสามารถถ่ายภาพ “วิดีโอ HDR” ซึ่งรวมวิดีโอในรูปแบบที่แตกต่างกัน สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องที่ 8 เฟรมต่อวินาทีและมีระบบ AF แบบไฮบริดที่ปรับปรุงใหม่ ตัวควบคุมภายนอกของ X-T200 นั้นซับซ้อนกว่ารุ่นก่อน ๆ เพราะมีถึงสามปุ่ม
จุดเด่น
- หน้าจอสัมผัสแบบปรับมุมได้ ขนาดใหญ่ 3.5 นิ้ว
- คุณสมบัติวิดีโอ 4K ที่ดี
- การออกแบบที่ประณีต และน้ำหนักเบา
ข้อควรพิจารณา
- ใช้แบบ CMOS ซึ่งปกจะใช้เซ็นเซอร์ X-Trans
เซนเซอร์ | APS-C CMOS |
---|---|
เลนส์เมาท์ | Fujifilm X |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi, Bluetooth |
วิดีโอ | 4K |
อายุแบตเตอรี่ | N/A |
หน้าจอทัชสกรีน | |
น้ำหนัก | 370g |
การรับประกัน | 1 ปี |
รีวิว Canon EOS 90D
รูปภาพจาก Canon
ราคา 31,990 บาท*หากคุณยังชอบกล้อง DSLR แล้วละก็ Canon EOS 90D เป็นกล้องที่มีคุณสมบัติพื้นฐานในการถ่ายรูปที่พอเพียงสำหรับมือใหม่ แถมยังสามารถต่อยอดซื้ออุปกรณ์เสริมได้ในภายหลัง กล้องนี้มีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง 11fps ความละเอียดวิดีโอสูงสุด 4K (30 เฟรมต่อวินาที) มาพร้อมกับเซนเซอร์ความละเอียดสูงมากกว่า 80 ล้านพิกเซล (32.5MP เทียบกับ 24.2MP) ซึ่งมีประโยชน์สำหรับการครอบตัดภาพ ประสิทธิภาพการทำงานที่ราบรื่นและรวดเร็ว ขนาดกะทัดรัดพกพาง่าย ตรวจจับใบหน้าเมื่อใช้ช่องมองภาพ และมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi/Bluetooth เข้ากับสมาร์ทโฟนเพื่อเป็นชัตเตอร์ระยะไกล แบตเตอรี่รับรอง CIPA ที่มีความปลอดภัยและยาวนานมากขึ้น
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์ความละเอียดสูง
- วิดีโอ 4K ที่ 30fps
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีการป้องกันภาพสั่นไหว
- ระดับการลดจุดรบกวน JPEG เริ่มต้นไม่เพียงพอ
- อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ถูกที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น (ทั้งในด้านราคาและฟีเจอร์)
เซนเซอร์ | APS-C CMOS |
---|---|
เลนส์เมาท์ | EF/EF-S |
การเชื่อมต่อ | Wifi, Bluetooth |
วิดีโอ | 4K 30p,25p |
อายุแบตเตอรี่ | 1,300 ภาพ |
หน้าจอทัชสกรีน | |
น้ำหนัก | 701g |
การรับประกัน | 1 ปี |
รีวิว Nikon Z50 body Kit 16-50mm และ 50-250mm
รูปภาพจาก Nikon
ราคา 42,000 บาท*สำหรับใครที่กำลังมองหากล้องราคาไม่แรงมากนัก นี่คงไม่ใช่ตัวเลือกแรกสำหรับคุณ เนื่องจาก Nikon Z50 เป็นกล้องที่พึ่งออกใหม่ล่าสุด ดังนั้นนี่จึงเป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมสำหรับคนที่นิยมเล่นกล้องและมีงบในการซื้อ หลังจาก Nikon full-frame mirrorless ประสบความสำเร็จในรุ่น Z6, Z7 จึงได้ผลิตรุ่น Nikon Z50 ออกมา โดยรุ่นนี้จะเป็นการดึงคุณสมบัติยอดเยี่ยมของกล้องเหล่านั้น มาลงไว้ใน Z50 ที่ขายในราคาที่ถูกกว่าและขนาดที่เล็กกว่า จึงถือว่าเป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเล่นกล้อง ด้วยฟอร์มแฟคเตอร์ (Form Factor) ขนาดเล็กจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่เซ็นเซอร์ APS-C อีกทั้งหน้าจอและ viewfinder นั้นก็ออกแบบมาให้ใช่งานได้อย่างดีเยี่ยม
เหตุผลในการซื้อ
- APS-C ตัวใหม่ที่เหมาะสำหรับการเดินทาง
- ดีไซน์เรียบงายและกะทัดรัด
- มี viewfinder (ช่องมองภาพ) ที่ยอดเยี่ยม
- มีหน้าจอทัชสกรีนแบบ Tilting ปรับก้มเงยได้
- วิดีโอ 4K
ข้อควรพิจารณา
- มีจำนวนเลนส์ที่จำกัด
- ราคาสูงสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นกล้อง
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ต่ำ
เซนเซอร์ | 20.9 APS-C CMOS |
---|---|
เลนส์เมาท์ | Z |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi & Bluetooth |
วิดีโอ | 4K |
อายุแบตเตอรี่ | 300 ภาพ |
หน้าจอทัชสกรีน | |
น้ำหนัก | 450g |
การรับประกัน | 1 ปี |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว กล้องถ่ายรูป ที่ดีที่สุด สำหรับมือใหม่ ในปี 2020 | |||
---|---|---|---|
รูปภาพ | ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ข้อมูลเพิ่มเติม |
รูปภาพจาก Canon | Canon EOS 2000D kit 18-55 mm. | เซนเซอร์: 24.1 MP APS-Cเลนส์เมาท์: Canon EF/EF-Sการเชื่อมต่อ: Wi-Fi & NFCวิดีโอ: 1080pอายุแบตเตอรี่: 500 ภาพหน้าจอทัชสกรีน: น้ำหนัก: 475gการรับประกัน: 1 ปี | |
รูปภาพจาก NIKON | Nikon D3500 18-55mm KIT / DSLR Camera | เซนเซอร์: 24.2MP APS-Cเลนส์เมาท์: Nikon Fการเชื่อมต่อ: Bluetoothวิดีโอ: 1080pอายุแบตเตอรี่: 1,650 ภาพหน้าจอทัชสกรีน: น้ำหนัก: 415gการรับประกัน: 1 ปี | |
รูปภาพจาก Olympus | Olympus Camera E-PL9 เลนส์ 14-42 mm | เซนเซอร์: 16.1MP Four Thirds Live MOSเลนส์เมาท์: Micro Four Thirdsการเชื่อมต่อ: Wi-Fi & Bluetoothวีดีโอ: 4Kอายุแบตเตอรี่: 350 ภาพหน้าจอทัชสกรีน: น้ำหนัก: 380gการรับประกัน: 1 ปี | |
รูปภาพจาก Canon | Canon EOS M200 EF-M 15-45 mm. F3.5-6.3 IS STM | เซนเซอร์: CMOS รูปแบบ APS-Cเลนส์เมาท์: Canon EF-Mการเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, HDMI, USBวิดีโอ: 4Kแบตเตอรี่: Rechargeable Li-ion LP-E12หน้าจอทัชสกรีน: น้ำหนัก: 299gการรับประกัน: 1 ปี | |
รูปภาพจาก SONY | Sony a6000 Kit 16-50mm | เซนเซอร์: 24.3MP APS-Cเลนส์เมาท์: Sony E Mountการเชื่อมต่อ: Wi-Fi & NFCวิดีโอ: 1080pอายุแบตเตอรี่: 360 ภาพหน้าจอทัชสกรีน: น้ำหนัก: 285gการรับประกัน: 1 ปี | |
รูปภาพจาก Olympus | Olympus OM-D E-M10 Mark III Kit 14-42 MM | เซนเซอร์: 16.1MP Micro Four Thirdsเลนส์เมาท์ : Micro Four Thirdsการเชื่อมต่อ : Wi-Fiวิดีโอ : 4Kอายุแบตเตอรี่ : N/Aหน้าจอทัชสกรีน : น้ำหนัก : 410gการรับประกัน : 1 ปี | |
รูปภาพจาก Nikon | Nikon D5600 Kit + Lens AF-P DX18-55 | เซนเซอร์ : APS-C CMOSเลนส์เมาท์ : Nikon F (DX)การเชื่อมต่อ : Wi-Fi, NFC, Bluetoothวิดีโอ : 1080pอายุแบตเตอรี่ : 820 ภาพหน้าจอทัชสกรีน : น้ำหนัก : 465gการรับประกัน : 1 ปี | |
รูปภาพจาก Canon | Canon EOS 250D Kit 18-55 mm. | เซนเซอร์: 24.1MP APS-C CMOSเลนส์เมาท์: EF-Sการเชื่อมต่อ: Wi-Fi & Bluetoothวิดีโอ: 4K (ครอบตัด)อายุแบตเตอรี่: 1,070 ภาพหน้าจอทัชสกรีน: น้ำหนัก: 449gการรับประกัน: 1 ปี | |
รูปภาพจาก Panasonic | Panasonic Lumix GX9 kit lens 12-32mm | เซนเซอร์: 21.7MP Four Thirds Live MOSเลนส์เมาท์: Micro Four Thirdsการเชื่อมต่อ: Wi-Fi & Bluetoothวีดีโอ: 4Kอายุแบตเตอรี่: 260 ภาพหน้าจอทัชสกรีน: น้ำหนัก: 450gการรับประกัน: 1 ปี | |
รูปภาพจาก Fujifilm | Fujifilm X-A7 Kit 15-45 mm. | เซนเซอร์: 24.2MP APS-C CMOSเลนส์เมาท์: Xการเชื่อมต่อ: Wi-Fi & Bluetoothวิดีโอ: 4Kอายุแบตเตอรี่: 270 ภาพหน้าจอทัชสกรีน: น้ำหนัก: 320gการรับประกัน: 1 ปี | |
รูปภาพจาก Fujifilm | Fujifilm X-T200 Kit with 15-45mm | เซนเซอร์ : APS-C CMOSเลนส์เมาท์ : Fujifilm Xการเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetoothวิดีโอ : 4Kอายุแบตเตอรี่: N/Aหน้าจอทัชสกรีน : น้ำหนัก: 370gการรับประกัน: 1 ปี | |
รูปภาพจาก Canon | Canon EOS 90D | เซนเซอร์: APS-C CMOSเลนส์เมาท์: EF/EF-Sการเชื่อมต่อ: Wifi, Bluetoothวิดีโอ : 4K 30p,25pอายุแบตเตอรี่ : 1,300 ภาพหน้าจอทัชสกรีน: น้ำหนัก: 701gการรับประกัน : 1 ปี | |
รูปภาพจาก Nikon | Nikon Z50 body Kit 16-50mm และ 50-250mm | เซนเซอร์: 20.9 APS-C CMOSเลนส์เมาท์: Zการเชื่อมต่อ: Wi-Fi & Bluetoothวิดีโอ: 4Kอายุแบตเตอรี่: 300 ภาพหน้าจอทัชสกรีน: น้ำหนัก: 450gการรับประกัน: 1 ปี |
บทสรุปเลือกซื้อกล้องให้เหมาะกับคุณ
สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกกล้องที่เหมาะสมและเป็นกล้องตัวแรกของคุณ นั้นก็คือให้คุณพิจารณางบประมาณ แบรนด์ที่คุณชอบ ฟังก์ชั่นพิเศษที่คุณต้องการ อาทิเช่น การบันทึกวิดีโอ 4K, มี Wi-Fi ในตัวกล้อง หรือช่องมองภาพ(Viewfinder) เป็นต้น
- สำหรับผู้ที่มีงบประมาณไม่สูงมากนัก เราขอแนะนำ Sony A6000 กล้องตัวนี้เป็นกล้องที่พึ่งออกมาไม่กี่ปี แต่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากคุณชอบลูกเล่นกล้อง Mirrorless โหมด APS-C กล้อง Nikon Z50 ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
Sony a6000 Kit 16-50mm | ||
Nikon Z50 body Kit 16-50mm และ 50-250mm |
- สำหรับใครที่เน้นความสะดวกในการพกพาเป็นหลัก เน้นน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด เราขอแนะนำ Panasonic GX9 และ Olympus PEN E-PL9 ให้คุณได้พิจารณา
Olympus Camera E-PL9 เลนส์ 14-42 mm |
- สำหรับใครที่มองหากล้องแบรนด์ Canon ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นกล้อง แนะนำ EOS 250D ที่เป็นกล้อง DSLR ที่มีขนาดเล็กและเบาที่สุด ในส่วนของหน้าจอเป็น touchscreen แต่หากคุณจำกัดงบประมาณไว้มากกว่านี้ เราก็ขอแนะนำกล้อง 2000D
Canon EOS 2000D kit 18-55 mm. | ||
Canon EOS 250D Kit 18-55 mm. |
- สำหรับผู้ที่หลงรักในกล้องแบบย้อนยุคหน่อย ๆ เราขอแนะนำ Fujifilm X-A7 ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมายาวนาน
Fujifilm X-A7 Kit 15-45 mm. |
บทสรุปกล้องตัวไหนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่เริ่มเล่นกล้อง
เป็นคำถามที่ตอบยากมากเหมือนกันนะคะ เนื่องจากตอนนี้มีหลากหลายแบรนด์ที่ผลิตกล้องออกได้ดีไม่แพ้กัน แต่หากคุณเป็นมือใหม่ในวงการถ่ายภาพเราขอแนะนำ Nikon D3500 ที่ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะความพิเศษของกล้องตัวนี้มันจะช่วยให้คุณเรียนรู้และคุ้นเคยกับการทำงานของกล้อง DSLR ซึ่งคุณจะพบว่ามีเลนส์และอุปกรณ์เสริมนับร้อยนับพันให้คุณได้เลือกเล่น เมื่อคุณต้องการจะยกระดับความสามารถของกล้องของคุณ
Nikon D3500 18-55mm KIT / DSLR Camera |
เคล็ดลับการถ่ายภาพสำหรับผู้เริ่มต้น
1. อุปกรณ์กล้องไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ
ปัจจุบันนี้มีกล้อง, เลนส์ และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ มากมาย เราใช้เวลามากมายในเลือกซื้อสิ่งที่ดีที่สุด แต่หากคุณรู้สึกพอใจในสิ่งที่มีอยู่และพยายามฝึกฝนเก็บเกี่ยวทักษะในการถ่ายรูปอย่างดีที่สุด อันที่จริงแล้วเพียงแค่คุณมีกล้อง DSLR ในะดับเริ่มต้น สำหรับผู้ที่คิดว่าจะเน้นไปที่ผลงานภาพภาพยนตร์ด้วย ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะกล้อง DSLR จะให้ผลงานออกมาได้สวยงามและยอดเยี่ยม แต่หากคุณยังเป็นมือใหม่มาก ๆ และไม่มีทักษะใด ๆ ในถ่ายรูป เราแนะนำให้คุณใช้กล้อง Mirrorless ที่ให้ภาพออกมาสวยงามไม่แม้กัน แถมยังใช้งานได้ง่ายกว่ามาก
สิ่งที่สำคัญที่เราอยากจะบอกก็คือ การเน้นไปที่ทักษะการสร้างสรรค์ถ่ายภาพและความรู้ในการตั้งค่ากล้องของคุณ ความพยายามเหล่านั้นต่างหากที่จะให้คุณได้ผลงานที่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่ในการพยายามซื้ออุปกรณ์กล้องเสริมต่าง ๆ มากมาย
2. ถ่ายภาพกับองค์ประกอบของคุณ
ในการถ่ายภาพที่น่าดึงดูด คุณต้องมีส่วนร่วมกับสิ่งที่คุณทำ พยายามอย่าพึ่งกับโหมด Auto เพียงอย่างเดียวโดยไม่เรียนรู้อะไรเลย ให้คุณนึกถึงองค์ประกอบของคุณ และพยายามทำให้ภาพถ่ายของคุณดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
คุณควรจะเริ่มต้นด้วยการรู้พื้นฐานของวิธีการจัดเรียงภาพถ่ายที่ดี และอย่าตัดส่วนที่สำคัญของวัตถุด้วยขอบของเฟรม รักษาระดับขอบท้องฟ้าและพยายามกำจัดสิ่งรบกวนในรูปภาพ โดยการปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ ให้ลงตัว ดูว่าภาพถ่ายของคุณมีความสมดุลและเรียบง่ายหรือไม่ และหากภาพถ่ายออกมาดูไม่ดีในการลองครั้งแรก ให้คุณทดลองต่อไปจนกว่าคุณจะทำถูกต้อง
3. เรียนรู้ว่าการตั้งค่าใดที่สำคัญ
มีการตั้งค่ากล้องมากมาย และคุณจะต้องต้องฝึกฝนให้ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะผู้เริ่มต้น คุณเชื้อหรือไม่แม้แต่ช่างภาพที่มีประสบการณ์ขั้นสูงก็ยังไม่สามารถทำทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่มันก็คุ้มค่าที่จะเรียนรู้วิธีการตั้งค่ากล้องของคุณอย่างเหมาะสม และการตั้งค่ากล้องที่ดีจะทำให้คุณมีโอกาสที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพที่สวยตามที่คุณต้องการ
ก่อนอื่นให้ลองฝึกด้วยโหมดกล้องอื่นที่ไม่ใช่ Full Auto คุณจะไม่เรียนรู้อะไรเลย ถ้ากล้องทำการตัดสินใจทั้งหมดแทนคุณ ในตอนแรกคุณอาจจะสับสนไปบ้าง เกี่ยวกับค่ารูรับแสง, ความเร็วชัตเตอร์ และ ISO (การเพิ่มความสว่างหรือความเข้มของภาพถ่าย) สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ดี นี่คือการตั้งค่าที่สำคัญที่สุด 3 ประการในการถ่ายภาพทั้งหมด
นอกจากนี้คุณควรเรียนรู้วิธีการโฟกัสอย่างเหมาะสม โดยฝึกด้วยโหมดโฟกัสอัตโนมัติต่าง ๆ บางทีคุณอาจจะชอบออโต้โฟกัสแบบเซอร์โวเดียว (single-servo autofocus) หรือที่เรียกว่า One-Shot AF มันเหมาะสำหรับวัตถุที่อยู่นิ่ง สำหรับออโต้โฟกัสแบบเซอร์โวแบบต่อเนื่อง (continuous-servo autofocus) หรือที่เรียกว่า AI Servo เหมาะสำหรับถ่ายวัตถุที่เคลื่อนไหว อย่าใช้การโฟกัสด้วยตนเอง เว้นแต่จะมืดจนออโต้โฟกัสไม่ทำงาน
ท้ายสุดถ่ายภาพใน RAW* หากคุณต้องการแก้ไขรูปภาพหรือคิดว่ามีโอกาสที่คุณจะแก้ไขในอนาคต สำหรับไฟล์ภาพ JPEG* จะดูดีมาจากกล้อง หากคุณไม่แน่ใจให้ยิง RAW + JPEG และเก็บ RAW
- RAW เป็นไฟล์ภาพที่มีข้อมูลที่ไม่ได้ประมวลผลหรือประมวลผลน้อยที่สุดจากเซ็นเซอร์ของกล้องดิจิตอล
- JPEG เป็นไฟล์ภาพที่สามารถเปิดดูและพิมพ์ได้ง่ายโดยโปรแกรมดู มีรายละเอียดและขนาดเล็ก
4. อย่าเน้นเพียงแค่ไฮไลท์
เมื่อคุณเลือกการตั้งค่ากล้อง คุณจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการเน้นแสง (highlights) มากเกินไปในภาพถ่าย ทำไมต้องทำอย่างนั้น? นั่นเป็นเพราะไปเราไม่สามารถที่จะกู้คืนรายละเอียดใด ๆ จากพื้นที่สีขาวของภาพถ่ายได้ อาทิเช่น ภาพท้องฟ้าที่มีพื้นผิวและสีที่สดใส แทนที่จะเป็นแค่ก้อนใหญ่ก้อนโตที่ไม่มีรูปร่างอะไรเลยนอกจากสีขาวใหญ่ ๆ จากการการเน้นแสงมากเกินไป
เป็นการง่ายที่จะรักษาไฮไลท์ของคุณเอาไว้ สิ่งที่คุณต้องเน้นคือความเร็วชัตเตอร์ที่รูรับแสงและ ISO มันมีความสำคัญมาก การตั้งค่ากล้องเพียงอย่างเดียวที่มีผลต่อความสว่างของภาพถ่ายโดยตรง
หากมีการรับแสงมากเกินไป สิ่งแรกที่คุณควรทำคือลดค่า ISO ให้ต่ำกว่าค่าฐาน (ปกติคือ ISO 100) หากมีการเซตค่าที่ถูกต้องอยู่แล้ว ให้ปรับไปใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วขึ้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้ตั้งค่าเป็นค่าผิดเพี้ยน (f / 32, f / 45 ฯลฯ ) รับรองว่าภาพถ่ายของคุณจะออกมาดูดีขึ้น
5. ทำความเข้าใจกับแสงให้มากกว่านี้
ส่วนที่สำคัญที่สุดของการถ่ายภาพก็คือแสง หากคุณถ่ายภาพด้วยแสงที่ดี คุณก็จะได้รูปที่ดีออกมาเช่นกัน แต่อะไรคือความสว่างที่ดี? แน่นอนค่ะว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับพระอาทิตย์ตก บ่อยครั้งที่เป้าหมายของการถ่ายภาพคือการคือสร้างความสมดุลระหว่างความเข้มแสงของวัตถุและพื้นหลัง แม้ว่าคุณจะถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินที่น่าทึ่ง แต่ภาพก็อาจถูกทำลายโดยการบดบังเบื้องหน้าที่มืดสนิทและมีเงาทับอยู่
วิธีที่ง่ายที่สุดในการแก้ปัญหานี้คือให้เรียนรู้เกี่ยวกับทิศทางและความนุ่มนวลของแสง หากแสงมีพลังที่รุนแรงเกินไป คุณอาจได้รับเงาที่ไม่ดีในวัตถุของคุณซึ่งจะเป็นปัญหาสำหรับการถ่ายภาพบุคคล หากแสงมาจากมุมที่ไม่ราบเรียบให้ดูสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อย้ายแหล่งกำเนิดแสง (กรณีถ่ายในสตูดิโอ) หรือย้ายตัวแบบ (กรณีถ่ายภาพกลางแจ้ง) หรือรอจนกว่าแสงจะดีกว่านี้ (กรณีถ่ายภาพทิวทัศน์)
นอกจากนี้หากคุณกำลังถ่ายภาพจากมือถือ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแสงสว่างเพียงพอ วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำให้ภาพถ่ายดูซีดจางคือการถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีแสงสว่างเพียงพอนั่นเองค่ะ
6. ใช้เวลาในการถ่ายภาพให้มากขึ้น
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะทำผิดพลาดในการถ่ายภาพ หากคุณไม่ระวังให้ดี วิธีที่ดีที่สุดในการทำสิ่งนี้คือการทำให้ช้าลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเริ่มเรียนรู้การถ่ายภาพเป็นครั้งแรก
ก่อนอื่นให้ตรวจสอบการตั้งค่ากล้องของคุณอีกครั้ง หากคุณกำลังถ่ายภาพบุคคลกลางแจ้งในวันที่แดดจัด แต่คุณใช้โหมดการถ่ายรูปกลางคืน แน่นอนว่ามันเป็นหลักการถ่ายภาพที่ผิดอย่างมาก ดังนั้นคุณควรชะลอตัวลงและใช้เวลาในการทำหรือตั้งค่ากล้องให้ถูกต้องเสียก่อน
จากนั้นตัดสินใจในสิ่งที่สำคัญอื่น ๆ อาทิเช่นองค์ประกอบของภาพ, การโฟกัสอัตโนมัติในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่? ปรับปรุงสภาพแสงแล้วหรือไม่? เป็นต้น
7. พยายามเคลื่อนไหวเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด
การยืนถ่ายรูปเพียงมุมมองเดียวอยู่กับที่ ไม่ได้ช่วยทำให้คุณได้ภาพที่สวยมากขึ้น คุณควรขยับเท้าหรือเปลี่ยนตำหน่งของขาตั้งกล้องให้มากที่สุด ควรเปลี่ยนมุมมองความสูง อย่างเช่นการ เดินไปข้างหน้าและถอยหลัง เท่าที่คุณจะทำได้ หากคุณไม่เคลื่อนไหวเลย คุณจะได้ภาพรูปที่มีมุมมองเพียงแค่ทิศทางเดียวกันเท่านั้น ซึ่งมันจะดูไม่ได้แตกต่างกันมาก
8. รู้ว่าควรใช้ขาตั้งกล้องเมื่อใด
ขาตั้งกล้องเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ดีที่สุดสำหรับช่างถ่ายภาพหลาย ๆ คน มันจะช่วยคุณกำจัดหนึ่งในปัญหาที่ยากที่สุดอาทิเช่น การขาดแสงที่เหมาะสม ด้วยขาตั้งกล้องตัวนี้ คุณสามารถถ่ายภาพรับแสงเป็นเวลาหลายนาทีและจับรายละเอียดที่มืดจนมองไม่เห็นด้วยตามนุษย์ หรือแม้แต่ในฉากที่สว่างกว่า ขาตั้งกล้องก็สามารถช่วยเพิ่มความเสถียรขององค์ประกอบภาพ และช่วยให้คุณถ่ายภาพได้คมชัดยิ่งมากขึ้น
ขาตั้งกล้อง Andoer สำหรับกล้อง DSLR/Mirrorless | ||
ขาตั้งกล้อง THaiLee Tripod 3110 | ||
ขาตั้งกล้อง Andoer สำหรับ CA-Non SO-NY Ni-Kon กล้อง DSLR สำหรับสมาร์ทโฟน | ||
ขาตั้งกล้อง Manfrotto PIXI Plus Tripod Mini |
9. รู้ว่าเมื่อไหร่ควรใช้แฟลช
สิ่งที่คุณควรทราบอย่างหนึ่งคือ “แฟลชไม่ได้มีไว้สำหรับสภาพแวดล้อมที่มืดเสมอไป” อย่าพึ่งเข้าใจเราผิดไปนะคะ มันยอดเยี่ยมมากถ้าคุณต้องการแสงสว่างเพิ่ม โดยการรับแสงจากภายนอก, เอียงกล้องให้รับมุมแสงมากที่สุด และใช้เลนส์ที่ค่อนข้างยาว (50 มม. หรือมากกว่า) ทุกคนที่คุณรู้จักจะต้องประหลาดใจกับภาพของคุณที่ออกมา
แต่ไฟแฟลชก็มีประโยชน์ อาทิเช่น การถ่ายภาพนอกอาคาร หรือแม้ในตอนกลางวัน หากคุณเคยได้ยินคำว่า “fill flash” นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงสำคัญ เพราะคุณสามารถเติมเงาที่ผิดเพี้ยนในภาพถ่ายของคุณโดยการใช้แฟลชที่อ่อนลง
10. ทำความสะอาดเลนส์กล้องของคุณ
หลาย ๆ ถ่ายรูปไปมากมายโดยที่ไม่เคยแม้แต่จะทำความสะอาดเลนส์กล้องเลย หรือพวกเขาเหล่านั้นต้องการถ่ายภาพพร่ามัว 100% ? คุณควรทำความสะอาดเลนส์กล้องของคุณด้วย “น้ำยาทำความสะอาดเลนส์” และ “ผ้าไมโครไฟเบอร์” อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
ผ้าเช็ดทำความสะอาดเลนส์อเนกประสงค์ 15×18 cm (ผ้าเช็ดแว่น ผ้าเช็ดแว่นตา ผ้าเช็ดเลนส์ ผ้าเช็ดนาฬิกา) | ||
ผ้าไมโครไฟเบอร์ ผ้าเช็ดความสะอาดหน้าจอโทรศัพท์ เช็ดแว่นตา 15×18 cm (10ผืน) | ||
Quickwipe FUKi FUKi ผ้าเช็ดเลนส์ แว่นตา นาฬิกา หน้าจอโทรศัพท์ 20 แผ่น | ||
ETC ผ้าชามัวร์หนังแกะแท้ ผ้าเช็ดความสะอาดหน้าจอ (แว่นตา โทรศัพท์ โน้ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์) 90×60 cm |
11. อย่าใช้ Filter ราคาถูก
วิธีที่ง่ายที่สุดอีกวิธีในการถ่ายภาพพร่ามัว 100% ของเวลาคือการใช้ฟิลเตอร์ราคาถูกที่ด้านหน้าของเลนส์ การใช้ฟิลเตอร์ที่ไม่เหมาะสมกับเลนส์กล้อง จะทำให้ได้ภาพที่พร่ามัวและมีแสงจ้ามากเกินไป เช่นการถ่ายรูปท้องฟ้าหรือโคมไฟในตอนกลางคืน
12. สำรองรูปภาพของคุณ
ช่างภาพเกือบทุกคนที่ทำงานอย่างมืออาชีพมักจะมีการสำรองรูปภาพไว้เสมอ เพื่อป้องกันการสูญเสียรูปถ่ายสำคัญในชีวิตของของลูกค้า อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณ สำหรับผู้เริ่มต้น คุณควรสำรองข้อมูลรูปภาพของคุณทุกรูป ภาพถ่ายของคุณไม่ควรถูกเก็บไว้ในฮาร์ดไดรฟ์เพียงที่เดียว ตามหลักแล้วคุณจะต้องมีรูปภาพทั้งหมดอย่างน้อย 3 ที่ สำหรับการสำรองข้อมูลที่ดี และควรมีวิธีการสำรองที่แตกต่างกันอย่างน้อย 2 วิธี เช่นฮาร์ดไดรฟ์ภายในเครื่อง และและที่เก็บข้อมูลแบบถอดได้ แน่นอนว่าคุณควรสำรองข้อมูลอย่างน้อย 1 รายการไว้นอกดเครื่อง เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงการเสียรูปถ่ายของคุณ
13. ลองอะไรใหม่ ๆ
ยิ่งคุณทดลองถ่ายภาพมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความน่าสนใจมากขึ้นเท่านั้น เป็นเรื่องง่ายที่จะตกอยู่ในกิจวัตรประจำวันการถ่ายภาพที่คล้ายกันซ้ำไปซ้ำมา และไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย ดังนั้นคุณควรลองอะไรใหม่ดูบ้าง เพราะโดยปกติแล้วคุณจะค้นพบบางสิ่ที่เป็นเทคนิคใหม่ หรือความชอบส่วนตัวที่คุณสามารถนำกลับมาใช้ในการถ่ายภาพปกติเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
14. พบกับช่างภาพคนอื่น
การพบกับช่างภาพคนอื่นเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจหรือคำแนะนำต่าง ๆ คุณจะได้สนุกกับการแบ่งปันเคล็ดลับและเทคนิคกับช่างภาพคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าหยุดเรียนรู้ มีการเรียนรู้อยู่เสมอ
15. แก้ไขจุดอ่อนของคุณ
หากคุณยังพยายามถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์, รูรับแสง, ISO และการใช้โหมดอัตโนมัติแทนการฝึกฝน คุณจะไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ด้วยตัวเองเลย วิธีที่ดีที่สุดในการปรับปรุงรูปภาพของคุณ คือการวิเคราะห์สิ่งที่คุณยังไม่เข้าใจจากนั้นใช้เวลาที่จำเป็นในการเรียนรู้
16. มีความสุขกับการถ่ายรูป
การถ่ายภาพควรจะสนุก แต่คุณก็ควรจะพยายามทำสิ่งใหม่ ๆ และยังคงเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เสมอ การถ่ายภาพไม่ได้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เสริม แต่อยู่ที่ความตั้งใจของคุณมากกว่า อย่าปล่อยให้ไฟในตัวของคุณดับง่าย ๆ นะคะ
17. การถ่ายภาพให้มากที่สุด
การฝึกฝนเป็นเคล็ดลับที่จะนำคุณไปสู่ความเชี่ยวชาญไม่เพียงแต่ใช้กับการถ่ายภาพเท่านั้น มันสามารถนำไปใช้ได้กับทุกอย่างในชีวิตของคุณ ยิ่งคุณทดลองมากเท่าไหร่และยิ่งถ่ายรูปมากเท่าไหร่ ปภาพของคุณก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น หรือคุณใช้เวลาในการถ่ายภาพมากเท่าไหร่การถ่ายรูปก็จะง่ายขึ้นเท่านั้น
ติดตามข่าวสารรีวิวกล้องอื่นๆได้ที่ : Fotofile
Credit : bestreview.asia