สารบัญ
- Canon Lens RF 600mm F11 / 800mm F11 Super tele ที่เล็กและเบาที่สุด
- ทำไมขนาดเลนส์ถึงสั้นลง
- ราคา Canon Lens RF 600mm F11 / RF 800mm F11
- ดีไซน์แบบใหม่พกพาสะดวก
- หมดห่วงทุกข้อกังวล
1.Canon Lens RF 600mm F11 / 800mm F11 Super tele ที่เล็กและเบาที่สุด
เมื่อก่อนถ้าพูดถึง Super Tele ภาพที่ขึ้นมาในหัวคือ เลนส์ ขาวๆ ยาวๆ ใหญ่ๆ แต่สำหรับ 600/800mm มันคือ ReFerence ของเลนส์เทเลในอนาคต เพราะเล็ก และ เบามาก ทำไมมันถึงได้เล็กและเบาขนาดนี้ เบามากๆ 600mm น้ำหนักเพียง 930 g 800mm น้ำหนักเพียง 1.2 kg ซึ่งถ้าเรามาดูของเม้าท์ EF 600mm 3.05 kg 800mm 4.5 kg น้ำหนักต่างกันมากๆ วันนี้เราจะมา รีวิว Canon Lens RF 600mm F11 / 800mm F11 Super tele ที่เล็กและเบาที่สุดกันครับ
2. ทำไมขนาดเลนส์ถึงสั้นลง
ทำไมเลนส์ rf 600mm/800mm F11 ถึงสั้นลง เพราะ มีชิ้นเลนส์น้อยลง เพื่อลดขนาดเลนส์ และลดอาการเสียแสงจากการสะท้อนกลับ แต่การใช้ชิ้นเลนส์น้อยๆนั้น ย่อมมีข้อผิดพลาดต่างๆเกิดขึ้นเยอะ เช่น ความคลาดทรงกลม ความคลาดสี เพราะฉะนั้น Canon เลยใส่เลนส์ DO เข้ามาเพื่อช่วยแก้เรื่องเหล่านี้ ( DO มีคุณสมบัติ ช่วยแก้ทั้งความคลาดสี และความคลาดทรงกลมได้ )
ปกติเลนส์ทั่วไป ถ้าจะแก้คลาดสี จะต้องใช้พวก เลนส์ฟลูออไรด์ , UD , Apo ถ้าจะแก้คลาดทรงกลม ต้องใช้เลนส์ ASPH จะแก้ทั้ง 2 อย่าง ต้องใส่ถ้า 2 ชิ้น อย่างต่ำ แต่ 600/800 mm ใส่ DO ตัวเดียวจบเลย ทำให้ขนาดเลนส์เล็กลง เบาขึ้น และ คุณภาพภาพยังคงสูงอยู่ ถ้าใครยังจำได้ เมื่อก่อน จะมีตัว 400mm DO tele ขอบสีเขียว เล็กมาก ตอนนี้ canon ได้นำเทคโนโลยีนี้ กลับมาใช้อีกครั้ง
3.ราคา Canon Lens RF 600mm F11 / RF 800mm F11
สนใจโทรสั่งซื้อสินค้าได้ที่ 02-046-0488 และ 097-175-6000 หรือ ติดต่อที่ Fanpage
4.ดีไซน์แบบใหม่พกพาสะดวก
ดีไซน์แบบใหม่ Canon Lens RF 600mm F11 / 800mm F11 นั้นยืดเลนส์ออก เพื่อใช้งาน และหดกลับเข้าเวลาเก็บ เพื่อความเล็กกระทัดรัดในการพกพา
5.หมดห่วงทุกข้อกังวลและคุณสมบัตเพิ่มเติม
รูรับแสงแคบ หลายๆคนคงลังเลที่จะซื้อเลนส์ที่มี รูรับแสงที่ F11 เนื่องจากกังวลหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการ โฟกัส , speed พอไหม , ต้องดัน iso สูงๆ แล้ว noise มา พอใช้สปีดต่ำแล้วมือไม่นิ่ง แต่!!!!!!!!!!
สำหรับ Canon Lens RF 600mm F11 / 800mm F11 พอใช้ร่วมกับบอดี้ R5/R6 แล้ว ไม่ต้องห่วงเวลาถ่าย ว่าจะ speed ไม่พอ เพราะเราสามารถไปดันที่ iso ให้สูงๆได้สบายๆ โดยไม่ต้องห่วงเลยว่าจะมี noise เยอะ เพราะ R5/R6 จัดการเรื่อง noise ได้ดีมากๆ
ส่วนเรื่องโฟกัสที่ F11 ก้อไม่ต้องห่วงเช่นกัน เมื่อก่อน เวลาเราใช้ super tele ที่ F11 เนี่ย
เราจะโฟกัสได้ที่จุดกลางจุดเดียว ซึ่งพื้นที่ค่อนข้างเล็ก แต่สำหรับบอดี serie R พื้นที่โฟกัสเนี่ยเราจะสามารถโฟกัสได้ถึง 40*60% ( แนวนอน * แนวตั้ง) มันกว้างมากกกก เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องไปกังวลเลยเรื่องจะโฟกัสไม่ได้ ต่อให้ในที่แสงน้อย R5 โฟกัสได้ที่ -6EV , R6 โฟกัสได้ที่ -6.5EV เหลือๆ
อีกเรื่องนึงที่คนใช้ Super Tele กังวล คือ มือไม่นิ่ง ภาพเบลอ เพราะตัวเลนส์หนัก หรือบางทีต้องใช้สปีดต่ำ 2ตัวนี้จะไม่เป็นปัญหาแน่นอน เพราะน้ำหนักเบามาก และตัวเลนส์เล็ก จับถนัดมือ และเมื่อใช้งานร่วมกับ บอดี้ R แล้ว ตัว 600mm กันสั่นได้ถึง 5 stop ส่วน 800mm กันสั่นได้ถึง 4 stop สามารถ handheld ถ่ายได้สบายๆ
ที่ตัวเลนส์ทั้งคู่ ยังมีตัว control ring ทำให้สามารถปรับค่าต่างๆเวลาถ่าย ได้สะดวกสบายมากขึ้น
ส่วนใครที่ยังไม่พอกับระยะนี้ สามารถซื้อ Extender 1.4 / 2X มาต่อเพื่อเพิ่มระยะได้
เช่นเอา 2X มาใส่กับ 800mm ก้อจะกลายเป็น 1600mm F22 ถ่ายดวงจันทร์ได้สบายๆ
นอกจากนี้เลนส์ทั้ง 2 ตัวนี้ ยังสามารถใส่ฟิลเตอร์ที่หน้าเลนส์ได้ เพื่อป้องกันหน้าเลนส์เป็นรอย ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากๆ เพราะปกติเลนส์ super tele หน้าเลนส์จะใหญ่มากจนไม่สามารถใส่ฟิลเตอร์ที่หน้าเลนส์ได้ ทำให้ต้องไปใส่ที่ท้ายเลนส์แทน ที่เราเรียกว่า drop in filter
RF 600mm filter size 82mm
RF 800mm filter size 95mm
สรุป
โดยรวมแล้ว เลนส์ทั้ง 2 ตัวนี้เหมาะสำหรับ ถ่ายนก ถ่ายสัตว์ป่า ถ่ายกีฬา
ราคาไม่แพง เล็ก เบา พกพาง่าย ระบบโฟกัส และกันสั่น ใช้งานได้ดีมาก เมื่อใช้ร่วมกับ R5 และ R6
จุดด้อย
ถ้าไม่ได้ใช้ร่วมกับ R5 R6 แต่เราเอามาใช้กับ R RP ประสิทธิภาพ เรื่องการโฟกัส หรือเรื่องกันสั่น อาจจะใช้งานได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะฉะนั้น ถ้าอยากดึงประสิทธิภาพสูงสุดของเลนส์ออกมา ควรใช้ร่วมกับ R5 R6 เท่านั้น
Follow : Fotofile หรือ Fanpage Fotofile